ลืมครับ อิอิ
ตัวเลข…เรื่องง่ายๆ ที่หลายคนมองข้าม
พูดถึงเรื่องของตัวเลข บางคนบอกง่ายจะตาย แต่เรื่องง่ายๆ นี่แหละที่คนเรามักจะมองข้าม คนที่พอจะทราบอยู่แล้วก็ถือเป็นการทบทวนแล้วกัน ถ้าคุณว่าง่าย...คุณลองสะกดคำศัพท์ที่แปลว่า “ที่ 12” ดูสิ? อย่าง “ที่ 1” เราก็จะใช้ “first” แล้วที่ 12 หล่ะ ใช้อะไร?
ตัวเลขมี 2 แบบใหญ่ๆ คือ
(1) ตัวเลขที่เราใช้ในการนับทั่วไป เช่น one, two, three,… เป็นต้น เราเรียกตัวเลขชนิดนี้ว่า “Cardinal numbers”
(2) Ordinal numbers ซึ่งหมายถึงตัวเลขที่เป็นลำดับที่นั่นเอง เช่น first, second, third,… เป็นต้น
1 one 1st first*
2 two 2nd second*
3 three 3rd third*
4 four 4th fourth
5 five 5th fifth*
6 six 6th sixth
7 seven 7th seventh
8 eight 8th eighth*
9 nine 9th ninth*
10 ten 10th tenth
11 eleven 11th eleventh
12 twelve 12th twelfth*
13 thirteen 13th thirteenth
14 fourteen 14th fourteenth
15 fifteen 15th fifteenth
16 sixteen 16th sixteenth
17 seventeen 17th seventeenth
18 eighteen 18th eighteenth
19 nineteen 19th nineteenth
20 twenty 20th twentieth*
21 twenty-one 21st twenty-first*
22 twenty-two 22nd twenty-second*
23 twenty-three 23rd twenty-third*
24 twenty-four 24th twenty-fourth
25 twenty-five 25th twenty-fifth*
26 twenty-six 26th twenty-sixth
27 twenty-seven 27th twenty-seventh
… …
30 thirty 30th thirtieth*
… …
35 thirty-five 35th thirty-fifth*
… …
40 forty** 40th fortieth*
50 fifty 50th fiftieth*
60 sixty 60th sixtieth*
70 seventy 70th seventieth*
80 eighty 80th eightieth*
90 ninety 90th ninetieth*
99 ninety-nine 99th ninety-ninth*
100 a hundred 100th hundredth
โปรดสังเกตว่าส่วนใหญ่แล้ว ตัวเลขที่เป็นลำดับที่ เราก็แค่เติม th ต่อท้ายตัวเลขแบบธรรมดาเท่านั้นเอง ยกเว้นแค่บางตัวเลข ที่มีเครื่องหมาย * ต่อท้ายที่เขียนแตกต่างออกไป
โดยทั่วไป เวลาเราใช้ตัวเลขที่เป็นลำดับที่ เรามักจะเขียนตัวเลขแล้วต่อท้ายด้วย st, nd, rd สำหรับตัวเลขที่ลงท้ายด้วย 1, 2 และ 3 ตามลำดับ เช่น 31st คือ thirty-first, 52nd คือ fifty-second หรือ 73rd คือ seventy-third เป็นต้น แต่ควรจำไว้ว่า เลขลำดับที่ 11th, 12th และ 13th จะต้องลงท้ายด้วย th แทนที่จะเป็น st, nd, rd เหมือนตัวอื่นๆ
ปกติเรามักจะใช้ตัวเลขที่เป็นลำดับที่มากที่สุดในเรื่องของ “วันที่” อาทิเช่น
“What’s the date today?”
“It’s the twenty-fifth of October.”
“When were you born?”
“On the ninth of July, nineteen seventy-seven (1977).”
คนไทยส่วนใหญ่ชอบลืมว่าวันที่ต้องอ่านเป็นลำดับที่ เลยมักจะเผลออ่านเป็นตัวเลขธรรมดา ซึ่งผิดนะครับ ไหนๆ พูดถึงเรื่องวันที่แล้ว อยากจะกล่าวถึงการเขียนวันที่ซึ่งมี 2 แบบใหญ่ๆ
1) ภาษาอังกฤษแบบชาวอังกฤษ: จะเขียนเรียง วัน-เดือน-ปี ดังนี้
(Monday,) 3rd September, 2007 หรือ 3 September, 2007 (สามารถละ st, nd, rd หรือ th ได้)
เวลาอ่าน เราจะอ่านว่า (Monday) the third of September, two thousand and seven อย่าลืมว่าต้องมี “of” ก่อนชื่อเดือนนะครับ
2) ภาษาอังกฤษแบบชาวอเมริกัน: จะเขียนเดือนก่อน ตามด้วยวันที่ และปี
(Monday,) September 3rd, 2007 หรือ September 3, 2007 (สามารถละ st, nd, rd หรือ th ได้)
เวลาอ่าน เราจะอ่านว่า (Monday) September the third, two thousand and seven
ดังนั้นต้องระวังให้ดี ในกรณีที่เราเขียนวันที่เป็นตัวเลขอย่างเดียว เช่น 3/9/07 ถ้าเป็นชาวอังกฤษจะเข้าใจตรงกับเราว่า วันที่ 3 เดือน 9 (กันยายน) ปี 2007 แต่ถ้าเป็นชาวอเมริกันจะเข้าใจว่าวันที่ 9 เดือน 3 (มีนาคม) ปี 2007 ถ้าให้ปลอดภัยที่สุด ควรเขียนเดือนเป็นตัวอักษรไปเลยจะได้เข้าใจตรงกันครับ
ขอบคุณ
KruFiat
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=krufiat&month=16-12-2007&group=3&gblog=2
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น